ต่อให้สมรภูมิอันดุเดือดของตลาดครีมอาบน้ำจะแข่งขันประชันกันในเรื่องคุณสมบัติที่ช่วยให้อาบสะอาด หรืออุดมไปด้วยสารสกัดสุดพิเศษเพื่อดึงดูดใจกลุ่มลูกค้าเพียงใด แต่สิ่งสำคัญที่ BeNice (บีไนซ์) ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวกายยึดมั่น นั่นคือพันธกิจในการร่วมสร้างความยั่งยืนให้โลกใบนี้ ผ่านนวัตกรรมในทุกกระบวนการจากต้นทางไปสู่ปลายทาง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความสุขของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้นในทุก ๆ วัน
รู้หรือไม่BeNice เริ่มใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ปี 2562 ในบรรจุภัณฑ์ขนาด 400, 170 และ 80 มล. รวมทั้งหมด 25 SKUs ไม่ว่าจะเป็น BeNice Perfect Elastic Shower Cream,BeNice Peachy Peach and Sheabutter Shower Cream, BeNice Mystic White Shower Cream ฯลฯ และตั้งแต่ปี 2563 เรื่อยมา BeNice สามารถลดการใช้ Virgin Plastic ในผลิตภัณฑ์ได้ 211.40 ตัน (หรือประมาณ 80 ตันต่อปี) คิดเป็นคาร์บอนเทียบเท่า 1,673.19 ตัน
Virgin Plastic เป็นพลาสติกที่ถูกผลิตขึ้นมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมันดิบหรือก๊าซธรรมชาติ โดยต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ ทั้งการสกัดวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง รวมถึงต้องใช้ความร้อนและพลังงาน กว่าจะกลายเป็นเม็ดเรซินเพื่อการขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งการลดการใช้ Virgin Plastic จะช่วยลดการใช้พลังงานฟอสซิล ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการสร้างมลพิษและภาวะโลกร้อนนั่นเอง
โดย BeNice มีนวัตกรรมการผลิตที่ช่วยลดการใช้ Virgin Plastic โดยการนำขวดพลาสติกที่ถูกใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ เรียกว่า rHDPE (Recycled High-Density Polyethylene) ซึ่งนับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น
- ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ การใช้พลาสติกที่ใช้แล้วนำมาผลิตใหม่ ช่วยลดความต้องการใช้พลาสติกบริสุทธิ์และลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ลดปริมาณขยะพลาสติก ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ต้องถูกนำไปกำจัด ทั้งในรูปแบบการฝังกลบและการเผา
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กระบวนการผลิตใช้พลังงานน้อยกว่าการผลิตพลาสติกบริสุทธิ์ ซึ่งส่งผลให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง
- ความทนทานและประสิทธิภาพ สามารถใช้ในผลิตภัณฑ์หลายประเภท เช่น ขวดบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับ HDPE บริสุทธิ์
ไม่เพียงเท่านี้ BeNice ยังมีเป้าหมายที่จะใช้ rHDPE 30% เพื่อสนับสนุนการหมุนเวียนของวัสดุ พร้อมวางแผนระยะยาวเพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ทั้งวงจรอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การออกแบบโครงสร้างของตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้ใช้พลาสติกได้อย่างคุ้มค่า เพิ่มความแข็งแรง และสามารถลดของเสียในไลน์การผลิตบรรจุ และเพิ่มจำนวนต่อการขนส่งสินค้าต่อรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้งตัวฝาของผลิตภัณฑ์ขนาด 80 และ 170 มล. ยังเปลี่ยนมาใช้ระบบ bi-injection เพื่อลดการใช้สีในบรรจุภัณฑ์ ช่วยให้ระบบการรีไซเคิลมีความสมบูรณ์มากขึ้น สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ดีขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่เป้าหมายในอนาคตของ BeNice ในเรื่อง ESG (Environmental, Social, and Governance) อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน
ด้วยวิสัยทัศน์ของ BeNice ที่ “มุ่งเน้นขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสุขภาพ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค รวมไปถึงการสร้างผลกระทบในเชิงบวกด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” จึงไม่ใช่แค่เพียงคำนิยามที่ปั้นแต่งให้สวยหรู แต่ภายใต้ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) ที่ยึดมั่นพัฒนาคุณภาพสินค้าตอบทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมจึงสามารถเกิดขึ้นจริงได้ ภายใต้แนวคิด “Innovation from Core to Care – คิดดีเพื่อโลก นวัตกรรมดีเพื่อคุณ” เพื่อผลลัพธ์ปลายทางสำหรับผู้บริโภค คือผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ร่วมสร้างสรรค์สังคมที่ดีมีคุณภาพกับ BeNice เพื่อยกระดับความสุขในทุกๆ วันให้กับทุกคนอย่างยั่งยืน ติดตามเรื่องราวด้าน ESG ของ NEO ได้ที่ www.neo-corporate.com หรือ Facebook: Neo Corporate และติดตามกิจกรรมของBeNice ได้ทาง www.facebook.com/BeNiceThailand
