เมื่อเอ่ยถึง “ดอกกระเจียว” หลายๆ คนคงจะรู้จักกันดี เป็นดอกไม้ที่มีสีชมพู สวยงาม สีหวานๆ น่าเชยชม และในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน, กรกฎาคม และสิงหาคม ดอกกระเจียวจะเริ่มชูช่อออกดอกบานสะพรั่ง รอให้นักท่องเที่ยวได้แวะเข้าไปยลโฉมความงดงาม สถานที่ที่มีดอกกระเจียวบานอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง และ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ
ครั้งนี้พวกเราสื่อมวลชนได้มีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวชมดอกกระเจียว ที่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูมิ งานนี้ก็ต้องขอขอบคุณทาง ททท. สำนักงานนครราชสีมา โดยคุณรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผอ. ททท. สำนักงานนครราชสีมา และรองเจี๊ยบ ที่ได้เชิญชวนพวกเราชาวสื่อมวลชนเดินทางไปเที่ยวชมดอกกระเจียวในครั้งนี้
การเดินทางไปชมทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานแห่งชาติไทรทองในครั้งนี้ พวกเราก็ต้องพากันตื่นตั้งแต่ตีสี่ของวัน เพราะต้องเดินทางไกลๆ ไปยังอุทยานแห่งชาติไทรทองเพื่อที่จะได้ชมทะเลหมอกในยามเช้า ระหว่างทางก็แวะซื้อสเบียงที่เป็นข้าวเหนียวกับหมูปิ้งรับประทานกัน ใช้เวลาในการเดินทางก็ 2.30 ชั่วโมง ด้วยระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร
รถตู้พาพวกเราเดินทางไปถึงที่ทำการของอุทยานฯ เวลาประมาณ 8 โมงเช้า หลังจากนั้นก็ต้องนั่งรถกระบะของทางอุทยานฯ เพื่อไปพาพวกเราไปชมหมอกที่ผาชมดาว แล้วก็เดินทางไปชมทุ่งดอกกระเจียวและแวะถ่ายรูปเสียวๆ กันที่ผาหำหด ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกัน การเดินทางก็แบบลุยๆ กันเลย ถนนหนทางก็มีเรียบบ้างและเป็นลูกรังบ้าง ระหว่างทางที่เป็นป่าก็จะมีหมอกปกคลุมอยู่หนาแน่น สวยงามมาก มันสวยจนต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อทำการบันทึกภาพ
เดินทางมาได้สักพักใหญ่ๆ ก็มาถึงบริเวณผาชมดาว โอ้ว! แม่เจ้า มันช่างสวยงามอะไรเยี่ยงนี้ หมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ พอรถจอดก็พากันลงไปสร้างภาพกับบรรยากาศที่มีหมอกปกคลุม มองเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวประมาณ 6-7 คน กำลังสาละวนอยู่กับการถ่ายรูป พวกเราก็เช่นเดียวกัน จะรออะไรกันอยู่หละ บรรยากาศสวยๆ ด้วยหมอกแบบนี้ สร้างภาพกันสิครับคุณ
เสื้อสีเหลืองที่ผมใส่วันนี้ เวลาที่ถ่ายภาพท่ามกลางหมอกที่ปกคลุม ดูมันช่างโดดเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจนเสียยิ่งกระไร สร้างภาพกันจนเป็นที่พอใจก็พากันออกเดินทางกันต่อ โดยเป้าหมายก็ยังคงอยู่ที่ ทุ่งดอกกระเจียว และ ผาหำหด
เวลาประมาณ 8 โมงครึ่งก็ถึงหน้าอุทยานแห่งชาติไทรทอง มองเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนหลายคนที่เดินทางมาก่อนพวกเรา บ้างก็กำลังเดินกลับมาจากการไปชมดอกกระเจียวและผาหำหด บ้างก็กำลังจะเดินลงไปเหมือนกับพวกเรา
หมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ มีฝนตกปรอยๆ อยู่ตลอดเวลา ระหว่างทางที่ลงไปก็เปียกไปด้วยน้ำฝน บันไดที่ลงไปก็ลาดชันอยู่พอสมควร การเดินในแต่ละก้าวก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ สองข้างทางก็ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย มีหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ มองเห็นแค่เพียงระยะ 5-6 เมตรเท่านั้นเอง อืม! มันสวยมากจริงๆ
เดินทางไปถึงบริเวณทางแยกที่มีป้ายบอกแหล่งท่องเที่ยว บริเวณนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกรายละเอียดและแนะนำเส้นทาง ทางด้านซ้ายมือก็จะเป็นทางที่ลงไปชมทุ่งดอกกกระเจียว ส่วนทางด้นขวามือก็จะไปยังบริเวณผาหำหด แต่สำหรับผมเลือกที่จะไปชมทุ่งดอกกะเจียวกันก่อนเลย
ระยะทางจากจุดที่เจ้าหน้าที่ยื่นอยู่กระประมาณ 300 เมตร บริเวณนี้จะมีดอกกระเจียวให้เห็นอยู่มากพอสมควร สีชมพูเข้มๆ ชูช่อให้เราได้เห็นแ]ะชื่นชม ตรงนี้ผมก็ใช้เวลาอยู่นานพอสมควร ทั้งถ่ายเป็นภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว แหม! ไหนๆ ก็เดินทางมาไกลแสนไกล ก็เอามันซะให้สะใจกันไปเลยสิเรา
จากบริเวณทุ่งดอกกระเจียวก็เดินย้อนกลับมาทางเดิม เจ้าหน้าที่คนเดิมยังคงยืนให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวอยู่เหมือนเช่นเคย เจ้าหน้าที่บอกให้เราเดินขึ้นไปทางเนินด้านขวามือก็จะเจอกับผาหำหด
หมอกก็ยังคงปกคลุมอยู่ทั่วทั้งบริเวณ พอมองไปก็จะเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวยืนอยู่บริเวณผาหำหด ไปถึงก็จะเจอกับกลุ่มวัยรุ่นผู้ชายกำลังยืนโพสท์ท่าที่ผาหำหด บริเวณที่เป็นหินแหลมๆ ยื่นออกไป มองดูก็แอบเสียวอยู่นิดๆ เหมือนกัน
เมื่อถึงคิวว่างผมก็ไม่รอช้า เอ่ยปากบอกน้องวัยรุ่นให้ช่วยถ่ายภาพให้หน่อย แหม! มาไกลซะขนาดนี้เราจะไม่มีภาพถ่ายที่ผาหำหดไดอย่างไรกัน น้องเขาก็ใจดีและเต็มใจบริการ บริเวณนี้ก็ได้ทั้งภาพนิ่งแะภาพเคลื่อนไหวไปเยอะอยู่เหมือนกัน
เมื่ออิ่มเอมและดื่มด่ำกับความสวงามทั้งดอกกระเจียวและผาหำหดจนพอใจแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาเดินทางกลับขึ้นยังบริเวณทางเข้าอุทยานฯ การเดินก็ต้องก้าวย่างอย่างระมัดระวังเหมือนเช่นเคย ทั้งลื่นและฝนก็ตกปรอยๆ อีกด้วย กลับไปถึงบริเวณด้านบนก็จะเจอกับเพื่อนสมาชิกที่รออยู่ก่อนแล้ว หลังจากนั้นก็พากันเดินทางกลับไปยังบริเวณศูนย์บริการของอุทยานฯ ซึ่งรถตู้จอดรอพวกเราอยู่ก่อนแล้ว
จากบริเวณนี้พวกเราต้องนั่งรถตู้เพื่อเดินทางไปยังอีกด้านของอุทยานฯ เพื่อไปชมทุ่งดอกกระเจียว ก็ใช้เวลาในการเดินทางพอสมควร รถไปจอดบริเวณหน้าทางเข้าที่มีป้ายอุทยานแห่งชาติไทรทอง รถของนักท่องเที่ยวทุกคันจะต้องอยู่บริเวณนี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องซื้อบัตรเข้าอุทยานและบัตรค่าบริการนั่งรถสองแถว คันแรกคนเต็มผ่านไปก่อน พอคันที่สองพวกเราก็พากันขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังทุ่งดอกกระเจียว ใช้เวลาพอสมควรแต่ก็ไม่นานมาก ระหว่างทางก็มีรถสวนมาเป็นระยะๆ บริเวณนี้หมอกก็ไม่มีให้เห็นแล้ว
เดินทางถึงบริเวณทางเข้าไปชมทุ่งดอกกระเจียว เวลา 11.00 น. จอดรถเสร็จก็พากันลงเดินไปยังบริเวณทางเข้า ก็สร้างภาพเล็กน้อยพอเป็นกระสัย ภายในกลุ่มก็ได้ตกลงและนัดหมายเวลากัน ว่าให้เวลาประมาณเท่านี้แล้วมาเจอกันนะ เมื่อตกลงกันได้ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไป สำหรับผมก็ขอเดินไปแบบตัวคนเดียว เพราะมันอิสระดี จะแวะถ่ายรูปสร้างภาพตรงไหน หรือนานเท่าไหร่ก็ได้ สะดวกแบบในโลกส่วนตัว
มองกวาดสายตาจากทางด้านซ้ายไล่ไปจนสุดทางด้านขวา ป่าอันเขียวชอุ่มที่พื้นล่างปกคลุมไปด้วยทุ่งของดอกกระเจียว แลดูมันช่างสดชื่นเสียเหลือกเกิน มองขึ้นไปยังเนินไกลๆ ก็มองเห็นบรรดาเหล่านักท่องเที่ยวอยู่ประปราย บ้างก็เดินอย่างช้าๆ เพื่อเก็บภาพของดอกกระเจียว บ้างก็เดินสวนทางลงมา บริเวณนี้จะมีดอกกระเจียวให้เห็นอยู่มากกว่าจุดแรกที่เราแวะที่ผาหำหด แต่ก็ยังบานไปเต็มร้อยเปอร์เซนต์ คาดว่าน่าจะบานเต็มที่ในเดือนสิงหาคม
การเดินไปชมดอกกระเจียวก็จะเหนื่อยหน่อยเพราะต้องเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ โค้งซ้ายที โค้งขวาที ระหว่างทางก็จะมีที่ให้เราได้แวะนั่งพักขา ที่นี่จะมีราวที่เป็นไม้กันระหว่างมางเดินกับทุ่งดอกกระเจียว เพราะกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินฝ่าและเหยียบเข้าไปในดงดอกกระเจียว เป็นกฏของอุทยานแห่งชาติไทรทอง กันคนเข้าไปเดินเหยียบย่ำให้ดอกกระเจียวได้รับความเสียหาย
หมอกเริ่มจางหายไป ยังคงเหลือแต่ดอกสีชมพูของดอกกระเจียวที่ชูช่อให้เราได้ชื่นชม สร้างภาพ ถ่ายวิดีโอ จนเป็นที่เพลิดเพลินกันไม่รู้เบื่อ เดินขึ้นเนินไปจนถึงบริเวณตรงกลาง ที่ตรงนี้นักท่องเที่ยวมีจำนวนมากพอสมควร ภาพแล้วภาพเล่าถูกบันทึกอย่างไม่รู้เบื่อ
ในขณะที่สร้างภาพก็จะได้ยินเสียงจากเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ป่าวประกาศแนะนำและเชิญชวนอยู่เป็นระยะๆ มองเห็นนักท่องเที่ยวบางคนถึงขั้นเอาอุปกรณ์มาเพื่อสร้างภาพเก๋ๆ กันเลยทีเดียว แหม! ก็ปีหนึ่งมีหนเดียว ก็เอาให้มันเต็มที่กันไปเลย จริงมั้ย?
สำหรับตัวผมเองแล้ว ที่บริเวณนี้ก็สร้างภาพทั้งวิดีโอและภาพนิ่งกันไปเยอะเลย ดอกกระเจียวสีชมพูหวานๆ มันก็อดไม่ได้ที่จะต้องบันทึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขากลับลงมาก็ยังกดชัตเตอร์อยู่เป็นระยะๆ เพลิดเพลินเจริญตาจริงๆ บอกเลยว่ามันสวยงามมากๆ
ใครที่จะเดินทางไปชมดอกกระเจียวในตอนนี้ยังทันอยู่นะ ย้ำอีกทีว่า ดอกกระเจียวจะบานระหว่างเดือนมิถุนายน กรกฎาคม จนถึงเดือนสิงหาคม จะบานเต็มที่ร้อยเปอร์เซนต์ก็ในเดือนสิงหาคมนี่แหละ
“ดอกปทุมมา” (ชื่อที่เป็นทางการ) หรือ มีอีกชื่อหนึ่งที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันดีในชื่อ “ดอกกระเจียว” ซึ่งก็เป็นชื่อที่คนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ คนทางภาคอีสานใช้เรียกกันจนติดปาก และสำหรับขื่อ “ดอกบัวสวรรค์” เป็นชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 รัชกาลปัจจุบัน“
พิกัด : อุทยานแห่งชาติไทรทอง https://maps.app.goo.gl/X8dpGrwxffQEDLdg6
นักท่องเที่ยวสามารถโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ เบอร์โทร : 08-9282-3437
หรือทางเฟสบุ้ค : https://www.facebook.com/SaithongOfficial