จากของเก่าที่พี่ขวดและพี่แรมได้เก็บสะสมไว้เป็นจำนวนมากมาย นำไปตกแต่งตั้งโชว์กันที่บ้านไม้ชายน้ำก็มากมาย ของที่เก็บไว้ก็ยังมีเหลืออีก จึงเกิดความคิดที่จะทำสถานที่ขึ้นมาเพื่อจะได้นำของเก่าไปวางเก็บไว้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว พร้อมกับให้ผู้ที่ชื่นชอบและอยากที่จะย้อนอดีตของวันวาน หรือแม้กระทั่งคนที่ชื่นชอบในสไตล์ของเก่าสะสมแบบวินเทจ นี่จึงเป็นที่มาของการคิดสร้างที่พักอย่าง “บ้านไม้วินเทจ” ขึ้นมา
เมื่อช่วงเวลาบ่ายสามโมงกว่าๆ ในขณะที่แดดร่มลมตก หลักจากเลี้ยวรถคันเล็กๆ สีแดงเข้าไปยังบริเวณภายในของ “บ้าไม้วินเทจ” กวาดสายตามองดูบริเวณรอบๆ ที่พัก ทางด้านขวามือของประตูทางเข้า จะมีรูปปั้นของช้างทั้งครอบครัวที่มีขนาดเท่าจริงยืนอยู่ มองดูแล้วช่างน่ารักเอามากๆ มองเข้าไปด้านในซุ้มประตูทางเข้า จะมองเห็นสีเขียวชอุ่มของต้นไม้อยู่เป็นจำนวนมาก มันได้สร้างความสดชื่นให้ผู้ที่มาพักอย่างพวกเราได้เป็นอย่างดี
กระเป๋าเดินทางรวมไปถึงอุปกรณ์ในการบันทึกภาพ ถูกเคลื่อนย้านเข้าไปสู่ยังบริเวณภายใน พอพ้นซุ้มประตูทางเข้าก็ต้องเดินขึ้นไปทางด้านขวามือที่เป็นทางลาดเอียงทางด้านซ้ายตรงราวจับที่เป็นไม้ จะมีรูปปั้นของเด็กนั่งอยู่บนจักรยานวางตกแต่งอยู่ ดูเหมือนว่ากำลังจะเชื้อเชิญให้เราเข้าไปยังด้านใน
พอเดินพ้นซุ้มประตูแล้วเลี้ยวไปทางด้านซ้ายจะมีจักรยานเก่าๆ วางชิดพิงอยู่ทางผนังด้านขวามือ โดยที่ด้านหัวของจักรยานจะหันหน้าไปทางด้านในที่จะไปสูห้องที่จะพัก ด้านซ้ายมือก็จะมีรูปปั้นของเด็กผู้หญิงวางอยู่บนแท่น ข้างๆ กันก็จะมีระฆังแขวนอยู่ด้วย
พวกเราพากันก้าวเดินตรงไปยังห้องพัก ทางเดินจะทำเป็นซุ้มที่มีหลังคาทรงสูงโปร่ง เสาแต่ละต้นจะทาด้วยสีแดงออกม่วง ตัดกับผนังบางช่วงที่เป็นสีเขียวอ่อนๆ เหนือประตูทางเข้าจะมีซุ้มโค้งที่ตกแต่งด้วยกระจกสี ดูแล้วยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
เดินไม่กี่ก้าวก็จะมาถึงทางแยก ที่ทางด้านวาก็จะแยกไปสู่ห้องพักอีกแบบหนึ่ง ส่วนทางด้านซ้ายก็จะเป็นทางที่จะไปสู่ห้องที่พวกเราจะได้พักกันคืนนี้ และทางเดินทางนี้ก็จะทอดยาวไปจนสุดทาง ซึ่งเมื่อเดินเลี้ยวไปทางด้านขวามือ ก็จะมีสะพานแขวนไปเชื่อมต่อกับ “บ้านไม้ชายน้ำ”
พวกเราเดินลากกระเป๋าเลี้ยวซ้ายไปสู่ยังห้องพักที่อยู่ไม่ไกลนัก และก่อนที่จะเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อเข้าไปสู่ยังห้องพัก ตรงหัวมุมทางเข้าก็จะมี้มศาลาให้ลูกค้าได้นั่งเล่นพักผ่อนชิลล์เพลินๆ ได้อีก
สำหรับที่พักในส่วนนี้จะมีอยู่สองห้องซ้ายขวา ที่เมื่อเดินตรงเข้าไปยังด้านใน ที่นี่ตรงนี้ยังกันเอาไว้เป็นที่สำหรับส่วนกลาง เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าไปใช้งานร่วมกัน โดยจะมีเก้าอีโซฟาวางเอาไว้ให้ลูกค้าได้นั่งพักผ่อนก่อนที่จะเข้าห้องนอนของตัวเอง จัดได้ว่า ที่นี่มีสถานที่ให้ได้เลือกนั่ง ได้เลือกพักผ่อนกันอย่างเหลือเฟือจริงๆ
สำหรับห้องพักของที่ “บ้านไม้วินเทจ” นี้ จะมีอยู่ด้วยกันหลายแบบด้วยกัน ส่วนมากก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ในห้องครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น โทรทัศน์จอแบน ตู้เสื้อผ้า ชุดชา กาแฟ ดูๆ ไปแล้วรู้สึกได้ว่าเราเข้าไปพักอยู่ในบ้านของตัวเอง รูปแบบของที่เตียงนอนก็จะมีทั้งแบบซิงเกิ้ล และแบบดับเบิ้ล บางห้องก็จะมีโต๊ะสำหรับให้นั่งรับประทานอาหาร คือว่ามีครบทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น
ในส่วนของการตกแต่ง ที่นี่จัดได้ว่าทำได้อย่างลงตัว มีการนำของเก่าสไตล์วินเทจเอามาตกแต่งได้อย่างถูกที่ ถูกตำแหน่ง ดูแล้วไม่อึกอัด ภายในห้องมีการจัดสรรและแบ่งสัดส่วนได้อย่างดี ห้องสะอาดสะอ้าน ที่พื้นจะปูด้วยกระเบื้องออกไปในทางย้อนยุคแบบคลาสสิค ประตูระหว่างทางเดินก่อนที่จะเข้าห้องนอนจะเป็นบานเลื่อนซ้ายขวา
ห้องพักจะมีอยู่ด้วยกันสองเฟส ทางด้านขวาที่ติดกับสระน้ำจะเป็นห้องพักที่อยู่ติดกัน ด้านหลังของห้องพักก็จะอยู่ติดกับลำธาร เวลานอนก็จะได้ยินเสียงของสายน้ำไหลขับกล่อมอยู่ตลอดทั้งคืน สร้างอารมณ์อันสุนทรียภาพให้กับแขกผู้มาพักได้อย่างดีเยี่ยม
หลังจากได้นอนพักผ่อนกันหนึ่งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้เวลาเดินสำรวจรอบๆ บริเวณที่พักกันอีกครั้งแบบละเอียด ท้องฟ้าครึ้มๆ เป็นช่วงๆ สลับกับมีแสงแดดสาดส่องบ้างเป็นบางเวลา เดินสำรวจไป ชมของเก่ากันไป ถ่ายรูปกันไป แล้วก็ระลึกถึงวันวานในอดีตกันไป มันเหมือนว่าเรามาพักอยู่ท่ามกลางพิพิธภัณฑ์ของเก่าก็ปานนั้น รู้สึกรีแล็กซ์แบบสบายๆ การตกแต่งของที่นี่จะถูกคิดมาก่อนแล้วว่า “จะใช้อะไรวางตรงไหน”
ของเก่าหลากหลายทั้งจากไทยและต่างประเทศถูกวางผสมผสานไว้อย่างลงตัว ที่นี่จึงมีมุมให้ได้ถ่ายรูปกันอย่างมากมายเลยก็ว่าได้ คิดๆ ดูแล้วว่า การที่จะมาอยู่พักเพียงแค่คืนเดียวนั้นคงเสพความสวยงามของที่นี่ไม่พอเป็นแน่แท้ สำหรับพวกเราเลยได้โอกาสพักอยู่ถึงสองคืนสามวัน ได้นอนพักผ่อนอยู่บนที่นอนนุ่มๆ พร้อมกับเดินเล่นชื่นชมของเก่าและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันอย่างเต็มอิ่มและจุใจ
นอกจากนั้น ที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่แยกสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ให้ลูกค้าได้ลงไปว่ายน้ำเล่นกันอีกด้วย ยิ่งในช่วงของแสงทไวไลท์หรือช่วงแสงโพล้เพล้ด้วยแล้ว บรรยากาศของที่บ้านไม้วินเทจจึงเต็มได้ด้วยแสงสีของไฟส่องสว่างอันสวยงาม ที่นี่จึงเงียบสงบและเป็นส่วนตัวเอามากๆ
ในยามที่ต้องการที่จะหาของอร่อยๆ รับประทาน ลูกค้าก็สามารถที่จะเดินข้ามสะพานแขวนไปสั่งอาหารอร่อยๆ ทานกันได้ที่ “บ้านไม้ชายน้ำ” ซึ่งอาหารในแต่ละเมนูของที่บ้านไม้ชายน้ำนี้ ถือว่าขึ้นชื่อหลายเมนูเลยทีเดียว ไม่เชื่อก็ขอเชิญไปลองลิ้มชิมรสชาติกันได้เลย สำหรับพวกเราจัดกันไปแล้วทุกมื้อเลยก็ว่าได้
เมื่อรับประทายอาหารเสร็จ ลูกค้าก็สามารถที่จะไปเดินเล่นชื่นชมของเก่าที่มีอยู่เป็นจำนวนมากเพื่อเป็นการย่อยอาหารไปในตัวได้อีกด้วย การมาพักที่ “บ้านไม้วินเทจ” นี้ จึงถือว่าคุ้ค่าเอามากๆ และที่นี่ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวมากนัก ไม่ว่าะเดินทางไปเที่ยวที่เขาใหญ่หรือวังน้ำเขียวก็สามารถทำได้ อ๋อ! ลืมบอกไปว่า ถ้ามาพักที่นี่ อย่าลืมเตรียมกล้องและเม็มโมรี่การ์ดเอาไว้เยอะๆ นะครับ เพราะที่นี่ทั้ง “บ้านไม้วินเทจ” และที่ “บ้านไม้ชายน้ำ” มีมุมและของเก่าสวยๆ น่ารัก น่ารัก ให้ได้ถ่ายรูปกันเยอะมากเลยทีเดียว เดี๋ยวจะหาว่าผู้เขียนไม่ได้บอกล่วงหน้า
สนใจติดต่อขอจองห้องพักได้ที่เบอร์โทร. 092-023-9999 เฟสบุ้คแฟนเพจ : Banmai Vintage บ้านไม้วินเทจ
พิกัด : บ้านไม้วินเทจ https://maps.app.goo.gl/RN7ZQByTHCe32kzJ7
