ป.ป.ช. ภาค 4 และ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเลย เอาจริง ! แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ด่านซ้าย ดำเนินคดีกับเจ้าของโครงการ JK LAND และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 บุกรุกพื้นที่ป่า เสียหายร่วม 2 ล้าน
นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 นางสาวศิลาวรรณ พนม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเลย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ร่วมลงพื้นที่กับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลย.2 (ด่านซ้าย) และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) ตรวจติดตามกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าและมีการจัดสรรพื้นที่ป่าเตรียมแบ่งขาย ที่ดิน ริมถนนโคกงาม อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย โดยพื้นที่มีลักษณะลาดชันและมีบางส่วนเป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ในการตรวจสอบที่ดิน พบมีการจัดสรรแบ่งขาย โดยบริเวณด้านหลังมีการปรับพื้นที่ขึ้นไปบนภูเขา บริเวณด้านหน้าติดถนนมีการสร้างอาคารสำนักงานขาย พบกับนางฤทัย แก้วสง่า อายุ 37 ปี เป็นผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดินทั้ง 7 แปลง ให้ดำเนินการขุดปรับพื้นที่ ของ โครงการ JK LAND ประกอบด้วย โฉนด 6 แปลง และ นส.3 ก.1 แปลง เนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ และยังพบด้วยว่า มีพื้นที่ 92 ไร่ ที่มีการครอบครองปรับพื้นที่เกินจากเอกสารสิทธิ์ที่ดิน 24 ไร่เศษ และไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน นอกจากนี้ ยังพบการถมบริเวณร่องน้ำจากหน้าผาที่เป็นน้ำตก ไหลผ่านกลางแปลงที่ดิน ซึ่งนางฤทัยได้ยื่นคำร้อง ต่อ อบต.โคกงาม เพื่อขอปรับปรุงบูรณะน้ำตกและร่องน้ำลำธาร ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาต แต่มีการใช้รถแบ็กโฮ จำนวน 3 คัน ขุดปรับพื้นที่ดันหินและดินถมทับร่องน้ำ มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 เพื่อเปิดพื้นที่ทำเป็นถนนขึ้นไปบนภูเขาและปรับเป็นขั้นบันได โดยแสดงสัญลักษณ์บนยอดเขาปักธงสีส้มเป็นแนวแสดงอาณาเขต ที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล โดยปรับพื้นที่เตรียมจะเปิดเป็นปั๊มน้ำมัน และร้านกาแฟบนเนินเขา ทั้งนี้มีข้อมูลแจ้งว่า เจ้าของโครงการ JK LAND เป็นคนกรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่จึงบูรณาการร่วมกันขอเข้าตรวจสอบพื้นที่ พร้อมทั้งขอดูเอกสารสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่ที่มีการใช้รถแบ็กโฮปรับพื้นที่ เนื่องจากด้านหลังมีสภาพเป็นป่า ภูเขา และหน้าผาซึ่งเป็นน้ำตกธรรมชาติ และ การกระทำของนางฤทัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ม.54 และ ม.55 เจ้าหน้าที่จึงจับค่าพิกัดพื้นที่บุกรุกป่ามาคำนวณได้เนื้อที่ รวม 31-1-44 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่บุกรุกป่า จำนวน 24-1-51 ไร่ พื้นที่บุกรุกร่องห้วย จำนวน 6-3-93 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเบื้องต้นเป็นเงินถึง 2,148,321 บาท
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ตรวจติดตามดังกล่าว ถือว่าเป็นการดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการทุจริตเชิงรุก และเป็นการบูรณาการงานด้านการป้องกันการทุจริต ในการเฝ้าระวัง ติดตามและตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานภาครัฐอีกด้วย โดยภายหลังจากรวบรวมพยานหลักฐานและทำบันทึกตรวจยึด ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ด่านซ้าย ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว
