หากพูดถึงสมาร์ตโฟนในระดับราคาหมื่นต้นถึงหมื่นกลางที่จัดจ้านที่สุดในวันนี้ คงหนีไม่พ้น “realme 11 Pro Series 5G” ที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการที่ทำเอาหัวลำโพงแทบแตก โดยสามารถทำยอดขายได้อย่างถล่มทลายในทุกช่องทางตั้งแต่เริ่มวางจำหน่าย และวันนี้เราจะมาชี้ให้เห็นกันชัด ๆ อีกครั้งถึงฟีเจอร์เด็ดของ realme 11 Pro 5G โดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับทุกรุ่นก่อนหน้า ก็ยังพูดได้ว่า realme 11 Pro 5G เป็นมือถือที่คุ้มค่าที่สุดในเรทราคาเดียวกันแห่งปีแน่นอน
7 ฟีเจอร์สุดปังทำให้ realme 11 Pro 5G คุ้มสุดในเซกเมนต์ของปี 2023
1. รุ่นเดียวในตลาดที่ให้กล้องซูม OIS Prolight 100MP เป็นรุ่นแรกของโลก รองรับเอาต์พุตโดยตรง 100MP พร้อม 2X In-sensor Zoom ล้ำสมัย ซูมได้คมชัดกว่าการซูมแบบดิจิทัล ทำให้แต่ละพิกเซลมีส่วนร่วมในการถ่ายภาพ ทำให้ได้ภาพถ่ายที่ชัดเจนที่สุด เพื่อถ่ายภาพความละเอียดเต็มรูปแบบ ให้การถ่ายภาพระยะใกล้แบบ Portrait หรือถ่ายภาพทิวทิศน์ระยะไกลก็ไม่สูญเสียรายละเอียด ในขณะรุ่นอื่น ๆ สูงสุดอยู่ที่เพียง 64MP เท่านั้น (ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/realmeTH/posts/pfbid0283CFwzZFDhZicvs2W3ftJRDny3n4mcUBi5YTwiStWXWTKbnpz1UU7ZJgqiMsWSKvl)
2. โหมด Street Mode 4.0 พร้อมยกระดับการถ่ายภาพโดยได้ร่วมมือกับ Lonely Planet นิตยสารคู่มือสำหรับนักเดินทางชื่อดัง โดยสามารถแต่งภาพด้วยลายน้ำจาก Lonely Planet และฟิลเตอร์หลากรูปแบบ (Cinematic, Crisp และ Tranquil) สร้างสรรค์ภาพถ่ายตามจินตนาการได้อย่างง่ายดายในขั้นตอนเดียว
3. นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ realme ยังเป็นแบรนด์เดียวในตลาดที่จับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผ่านแคมเปญ Zoom in Thailand เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสฟังก์การซูมที่มีประสิทธิภาพจาก realme 11 Pro Series 5G ให้คุณได้พบกับความสวยงามที่ซ่อนอยู่ในประเทศไทยและสนุกสนานในการเดินทางมากยิ่งขึ้น
4. และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ งานดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงามหรูหราที่สุดของวันนี้ ด้วยฝีมือของอดีตนักออกแบบสิ่งพิมพ์จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Gucci ที่มาร่วมรังสรรค์วัสดุหนัง Lychee Vegan Leather เนรมิตให้สมาร์ตโฟนกลายเป็นเครื่องประดับชิ้นเก๋บนตัวคุณ ซึ่งการใช้วัสดุฝาหลังแบบหนังจะช่วยปกป้องลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี
5. ถนอมสายตาที่สุดกับครั้งแรกของโลกสำหรับระบบปรับความสว่างอัตโนมัติได้ 20,000 ระดับ และมอบความถูกต้องแม่นยำของสีในทุกสภาวะแสงด้วยเทคโนโลยี 2160Hz PWM ครั้งแรกของโลกเช่นกัน มอบประสบการณ์การมองที่สบายตา ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชอบเล่นสมาร์ตโฟนในระหว่างปิดไฟก่อนเข้านอนเป็นอย่างมาก เรียกว่ามือถือระดับเดียวกันยังไม่มีรุ่นไหนติดตั้งระบบนี้มาให้ 6. ปัจจัยสำคัญในการใช้สมาร์ตโฟนคือจอแสดงผล และ realme 11 Pro 5G มาพร้อมจอแสดงผลคุณภาพสูง 120Hz Curved screen ขนาด 6.7 นิ้ว ให้ทั้งรุ่น Pro และ Pro+ รับประกันเลยว่าคุณจะใช้งาน เสพคอนเทนต์ และเล่มเกมได้อย่าง
7. และสุดท้ายคือระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC Charge ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ใน 47 นาที พร้อมระบบความปลอดภัยในมาตรฐานเดียวกัน
realme 11 Pro 5G นำเสนอรุ่นความจุ 8/256GB โทนสี Sunrise Beige และ Astral Black ในราคา 12,999 บาท (ช่องทางการสั่งซื้อ: https://bit.ly/43uUSsh ) ผู้สนใจสามารถมาทดลองสัมผัสและใช้งานตัวเครื่องจริงได้ที่ realme Brand Shop และศูนย์ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้แล้ววันนี้
ติดตามข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ จาก realme Thailand ผ่านช่องทาง
Facebook Fanpage: (https://www.facebook.com/realmeTH)
Youtube: (https://www.youtube.com/@realmeThailandTH)
Instagram: (https://www.instagram.com/realme_thailand)
Twitter: (https://twitter.com/realmeTH)
Tiktok: (https://www.tiktok.com/@realme_thailand)