วัตสัน แบรนด์ผู้นำด้านสุขภาพและความงาม ภายใต้ เอ.เอส.วัตสัน กรุ๊ป เดินหน้าผลักดันความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องในโอกาสวันอนุรักษ์โลก (World Conservation Day) วัตสันได้ประกาศความร่วมมือกับ Kenvue, L’Oréal และ P&G เพื่อเดินหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยผนึกกำลังความแข็งแกร่งของวัตสันร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าในการผลักดันและขยายผลแนวคิดริเริ่มใหม่ๆ ด้านความยั่งยืน
คุณมาลีนา ไหง ประธานกรรมการบริหาร เอ.เอส.วัตสัน (เอเชียและยุโรป) กล่าวว่า “ที่วัตสัน แนวคิดด้านความยั่งยืน นับเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจเรา โดยเราได้ตระหนัก และให้ความสำคัญกับแนวคิดนี้มาเป็นลำดับต้นๆ และในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรม เราต้องการเป็นตัวอย่างที่ดี และชักชวนพันธมิตรคู่ค้ามาสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น โดยเราเชื่อว่าการทำงานร่วมกัน จะทำให้เราสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกของเราได้ ซึ่งการร่วมมือกับ Kenvue, L’Oréal และ P&G ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่เรามีร่วมกันได้สำเร็จ”
ส่งเสริมแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมให้กับกลุ่มผู้บริโภค
นอกเหนือจากการนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อความยั่งยืน การร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าของเรา ทำให้เราสามารถเดินหน้าไปได้ไกลยิ่งขึ้น โดยริเริ่มโครงการด้านความยั่งยืนในรูปแบบต่างๆ ร่วมกัน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคทุกๆ คน
ความร่วมมือกับ Kenvue นำไปสู่แคมเปญที่เปิดตัวไปทั่วภูมิภาคเอเชียอย่าง Green Smiles ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มผู้บริโภค ให้สามารถชอปปิ้งไปพร้อมๆ กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้ ยกตัวอย่างเช่นที่ วัตสัน ไต้หวัน เมื่อลูกค้าทำการซื้อผลิตภัณฑ์ทางเลือกด้านความยั่งยืนหนึ่งชิ้น ทาง Kenvue จะทำการปลูกต้นไม้เพิ่มหนึ่งต้น หรือที่ วัตสัน อินโดนีเซีย ลูกค้าสามารถช่วยเต่าทะเลได้ เมื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางเลือกด้านความยั่งยืน และที่วัตสัน ประเทศไทย ลูกค้าจะได้เรียนรู้เทคนิคส่งเสริมความยั่งยืน ผ่านกิจกรรมพิเศษ และกิจกรรมทำความสะอาดชายหาดร่วมกับเหล่า KOLs โดยคุณ Thibaut Mongon ซีอีโอจาก Kenvue กล่าวว่า “ที่ Kenvue เรามุ่งมั่นในการใส่ใจดูแลโลกในทุกๆ วัน โดยเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับการเปิดตัวแคมเปญที่ได้สร้างสรรค์ร่วมกันอย่าง Green Smiles รวมไปถึงการสานต่อความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนานกับ เอ.เอส.วัตสัน”
ในฮ่องกง วัตสัน และ P&G ได้ร่วมมือกันในโครงการ Plastic Reborn เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภครีไซเคิลภาชนะพลาสติก โดยนับตั้งแต่การเปิดตัวโครงการในปี 2564 มีการรีไซเคิลขวดพลาสติกไปแล้วกว่า 530,000 ขวด และปีนี้เราได้มีการต่อยอดความสำเร็จของโครงการที่ผ่านมา โดยเราได้วางแผนที่จะใช้ขวดพลาสติกที่รวบรวมผ่านโครงการ Plastic Reborn มาแปรรูปด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ และนำมาใช้สำหรับสะเต็มศึกษา (STEM Education)ในชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา คุณ James Lin, President of Procter & Gamble Hong Kong & Taiwan กล่าวว่า “ในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ของโครงการ เราได้ริเริ่มในการนำพลาสติกรีไซเคิลมาใช้ใหม่สำหรับสะเต็มศึกษา เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในด้านความยั่งยืน และแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการจัดการขยะพลาสติกในหมู่เยาวชน”
ขณะเดียวกัน ในฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ไทย และอินโดนีเซีย วัตสันยังคงสานต่อความร่วมมือ ร่วมกับ L’Oréal เพื่อสานต่อแคมเปญรีไซเคิลอย่าง Beauty for Future โดยลูกค้าสามารถรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ความงามต่างๆ ได้ ตั้งแต่ขวดรองพื้น หลอดผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ไปจนถึงปลอกลิปสติกที่ร้านวัตสัน ซึ่งแคมเปญนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากกลุ่มลูกค้า โดยมีขวดกว่า 200,000 ใบถูกรีไซเคิลภายในเวลาระยะเวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้น โดยคุณ Jean-Marc Cazenave, Global Sustainability Director (Consumer Products Division) of L’Oréal กล่าวว่า “ต้องขอบคุณความร่วมมือระดับภูมิภาคที่เราได้ร่วมกับทางวัตสัน ทำให้เราสามารถชักชวนผู้บริโภคมาร่วมส่งเสริมความยั่งยืน ผ่านการรวบรวมบรรจุภัณฑ์เปล่า ในโครงการรีไซเคิลที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้”
สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคผ่านการให้ความรู้ด้านความยั่งยืน
การให้ความรู้ด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ถือว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคเลือกเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งวัตสันจึงได้เปิดตัว Sustainable Month เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคลดขยะพลาสติก ด้วยการเลือกใช้อย่างชาญฉลาด และยั่งยืนมากยิ่งขึ้นในแต่ละวัน โดยตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนของแคมเปญ วัตสันจะแบ่งปันเทคนิค และให้คำแนะนำสำหรับผู้บริโภคผ่านทางโซเชียลมีเดีย เพื่อการนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว VR Hub (https://www.watsonsgogreen.com/vr) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถรับสิทธิประโยชน์พิเศษ และนำวิถีชีวิตที่ยั่งยืนมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ ผ่านวิดีโอให้ความรู้ เกมส์ที่เน้นการมีส่วนร่วม และการค้นหาผลิตภัณฑ์ด้านความยั่งยืนเพิ่มเติม
คุณ มาลีนา กล่าวปิดท้ายว่า “เราเชื่อว่าแนวคิดด้านความยั่งยืน ถือเป็นความงามในยุคใหม่ ซึ่งพวกเราทุกคนมีส่วนสำคัญในการสร้างความแตกต่างที่มีความหมายนี้ วัตสันจะเดินหน้าสานต่อการสร้างแรงบันดาลใจให้กับพันธมิตรคู่ค้าและผู้บริโภคต่อไป เพื่อร่วมกันสร้างผลกระทบเชิงบวกที่สำคัญ และด้วยเป้าหมายทางสังคมอย่าง Look Good. Do Good. Feel Great ที่วัตสันยึดถือ เราจะมุ่งมั่นที่สร้างโลกที่ดี และยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อไป”