ขับรถทำคอลัมน์ท่องเที่ยวมาแล้วก็หลายจังหวัด ส่วนมากก็จะเป็นรถประเภทที่เติมด้วยน้ำมันและรถประเภท Plug In Hybridge ที่ใช้ได้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้า ก็มีค่ายรถบางค่ายเสนอมาให้ทางเราเอารถไฟฟ้า 100% ไปทำคอลัมน์บ้าง เราก็ผลัดเปลี่ยนกันเรื่อยมา เหตุเพราะต้องทำการศึกษาและต้องเรียนรู้เกี่ยวกับรถไฟฟ้าให้ละเอียดก่อน รวมไปถึงเหตุปัจจัยที่สำคัญ ไม่ว่าะเป็นสถานีชาร์จ หรือ Station หรือแม้กระทั่งสถานที่จะไปนั้น มีสถานีชาร์จไฟฟเามากและเพียงพอหรือไม่

จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาที่ประจวบเหมาะ พร้อมกับที่ได้ศึกษาและได้ทำความเข้าใจในการใช้รถไฟฟ้า รวมไปถึงในเรื่องของสถานีชารร์จ (Station) ครั้งนี้ก็เลยตัดสินใจยืมรถจากทางค่าย GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) เพื่อเดินทางไปถ่ายทำคอลัมน์ท่องเที่ยว และ Tie-in โดยในครั้งนี้เราได้เป็นรถที่น่ารักๆ และเท่ๆ อย่าง ORA Good Cat GT คันสีดำ เป็นรถรุ่นพิเศษที่ตกแต่งในสไตล์รถแข่ง โดยตัวย่อ GT ก็มาจากคำว่า Grand Tourismo แหม!! อะไรมันจะเหมาะเจาะกับวัยสะรุ่นอย่างเราสองคนยังไงไม่รู้ โดยครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวกันที่ปากช่องกัน จะพาไปเที่ยวที่ไหน เดี๋ยวรู้กัน ตามเราสองคนมาเรื่อยๆ ครับ




ORA Good Cat GT ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว (ใหญ่ขึ้น) โดยมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นจากเดิม 28 แรงม้า แรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้น 40 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลถึง 460 กิโลเมตร/ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง



ก่อนจะทำการเดินทางก็ต้องศึกษา และดาวน์โหลดแอปสถานีชาร์จไฟฟ้ามาไว้ในสมาร์ทโฟนก่อน โดยครั้งนี้เราโหลดแอปมาด้วยกันถึง 3 แอป แอปแรกก็ EleXA แอปสองก็ EA Anywhere และแอปที่สามก็จะเป็น EV Station Pluz แต่ที่เราตัดสินใจเลือกก็เป็น EleXA เพราะยี่ห้อนี้ถือเป็นสถานีชาร์จไฟฟ้าอันดับแรกและอันดับต้นๆ และก็มีเป็นจำนวนมากกว่าเจ้าอื่น ที่สำคัญ สถานี้ชาร์จ EleXA จะเป็นพันธมิตรกับปั๊มพีทีอีกด้วย ดีงามมาก เพราะเราสองคนชอบกินกาแฟพันธ์ไทยที่ปั๊มพีทีอีกด้วยสิ



ก่อนเดินทางก็ทำการเข้าแอปเพื่อดูจุดหมายปลายทาง และดูว่าสถานีชาร์จของ EleXA มีอยู่ที่ไหนบ้างที่ใกล้ๆ และสะดวกสำหรับการแวะชาร์จไฟฟ้า รถที่ออกจากศูนย์ GWM ไฟฟ้าถูกชาร์จเอาไว้เต็มพิกัด ด้วยระยะทางที่จะไปปากช่อง ก็แค่ 100 กว่ากิโลเมตร ขับไปกลับยังได้เลย แต่ด้วยที่เราจะไปท่องเที่ยวกันก็คงต้องเสียพลังงานไฟฟ้ากันไปพอสมควร เราจึงตัดสินใจว่า ถ้าอย่างนั้นเราไปชาร์จไฟฟ้ากันที่ปั๊มพีทีสาขาปากช่อง 5 ก็แล้วกัน




ระหว่างการเดินทาง สิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ก็คือ การทดสอบระบบเสียงจากตัวรถ ด้วยการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ การเชื่อมต่อนั้นง่ายดายและสะดวกรวดเร็วดี


ในเรื่องของเสียงที่ฟังจาก ORA Good Cat GT คันนี้ ต้องบอกเลยว่า เสียงดีเอาเรื่อง มาครบๆ ทั้ง เบส กลาง และแหลม เสียงเบสที่อิ่มกระชับ เสียงร้องชัดเจน เสียงแหลมใสกระจ่าง ยิ่งฟังเพลงคันทรี่ด้วยแล้ว มันช่างเร้าอารมณ์ และสร้างบรรยากาศในการเดินทางท่องเที่ยว ชนิดที่ว่า เข้ากั๊น เข้ากัน

เดินทางมาได้ประมาณเกือบๆ จะครึ่งทาง ร่างกายมีความรุ้สึกว่าอยากได้คาเฟอีน ถ้าอย่างนั้นก็แวะปั๊มน้ำมันพีทีเพื่อแวะจัดกาแฟพันธ์ไทยก่อนแล้วกัน






ขับเจ้า ORA Good Cat GT ผ่านทางเข้าด้านหน้าของปั๊ม แล้วก็เลยไปจอดอยู่บริเวณหน้าร้านกาแฟพันธ์ไทย ก่อนจะเข้าไปสั่งกาแฟก็สร้างภาพกับเจ้า ORA Good Cat GT ที่มองดูเมือไหร่ก็เท่เมื่อนั้น ก็กดชัตเตอร์กันไปหลายภาพกันเลยทีเดียว แหม! ก็รถมันเท่จริงๆ นี่นา ว่ามั้ย?




จากร้านกาแฟก็ขับมุ่งหน้ากันรวดเดียวสู่ตัวเมืองปากช่อง โดยในครั้งนี้เราสองคนจะเข้าพักกันที่รีสอร์ทที่มีชื่อว่า “บ้านไม้วินเทจ” ซึ่งก็เป็นที่พักทีมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ในของตกแต่งที่เป็นของเก่าวินเทจล้วนๆ แบบนี้ก็ชอบสิครับ เพราะเราสองคนก็ชื่นชอบของเก่าแนววินเทจเรโทรกันอยู่แล้ว เดินทางถึงที่ “บ้านไม้วินเทจ” ช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น




ก่อนจะนำรถไปจอดก็ขอสร้างภาพกับรถ ORA Good Cat GT หน้าบริเวณทางเข้าที่พักสัก 4-5 ภาพ ก่อนจะเดินลากกระเป๋าเข้าห้องพัก เราสองคนก็พากันเดินชมบรรยากาศภายในรีสอร์ท ของตกแต่งเป็นของเก่าวินเทจมากมายถูกจัดวางอย่างเป็นหมวดเป็นหมู่ มองดูแล้วเพลินตาดี ยิ่งเราสองคนชื่นชอบของแนวนี้อยู่แล้ว มันช่างมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก




สำหรับเราจะได้เป็นห้องเล็กๆ เตียงเดี่ยวอยู่ทางด้านซ้ายมือ มีโต๊ะกินข้าวและนั่งเล่นอยู่ตรงกลางระหว่างห้องสองห้อง ภายในบริเวณห้องพักก็จะตกแต่งด้วยขแงเก่าวินเทจ ทั้่งโคมไฟ โต๊ะ เก้าอี้ แจกัน และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งหมดถูกตกแต่งจัดวางได้อย่างลงตัว

เปิดประเข้าไปภายในห้องที่จะพัก โอ้ว! ดีงามมาก ผ้าปูที่นอนถูกปูได้ตึงและเรียบเนียนมาก มีหมอนสีน้ำตาลวางให้ข้างละหนึ่งใบ ด้านบนเหนือเตียงนอนจะมีภาพเขียนสีน้ำมันรูปดอกไม้ขนาดใหญ่แขวนอยู่ ด้านซ้ายมือจะมีโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าสีน้ำตาล ส่วนด้านขวาฝั่งหัวนอนจะมีโต๊ะวางโคมไฟแนววินเทจตั้งอยู่ ทางด้านขวามือจะเป็นหน้าต่างกระจก พอเราเปิดผ้าม่านก็จะมองเห็นลำธารไหลผ่าน เสียงของสายน้ำดังอยู่ตลอดเวลา คล้ายๆ ประหนึ่งว่าเป็นเสียงของดนตรีที่คอยขับกล่อมในยามที่เราพักผ่อนอยู่ที่นี่ ดีงามเอามากๆ บอกเลย




ภายในห้องก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นทาง มีอ่างล้างหน้าอยู่ด้านนอกห้องน้ำ เพราะด้วยห้องที่มีขนาดเล็ก ห้องน้ำจึงมีเพียงแค่ชักโครกและห้องอาบน้ำ แต่ก็ถือว่ากว้างตามมาตรฐาน ก็โอเคอยู่นะ วางกระเป๋าเดินทางพร้อมกับกางออก หยิบเอาสิ่งของเครื่องใช้ออกไปจัดวางตามตำแหน่งที่จะหยิบใช้งาน สร้างภาพกับห้องนอนเสร็จก็พากันเดินข้ามสะพานแขวนไปรับประทานอาหารมื้อเย็นกันที่ บ้านไม้ชายน้ำ บอกเลยว่าอาหารของบ้านไม้ชายน้ำ อร่อยขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติ แถมราคาก็ไม่แพงอีกด้วย กินอิ่มกันแล้วก็พากันเดินกลับห้องพัก คืนนี้ก็จะได้นอนหลับพักผ่อนเอาแรง รอเพียงรุ่งเช้าของอีกวันก็จะได้พากันออกเดินทางไปเที่ยว ด้วยยานพาหนะคู่การเดินทาง ORA Good Cat GT




รุ่งเช้าของอีกวันหลังจากนอนกันเต็มอิ่ม เราสองคนพากันอาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วก็พากันเดินข้ามสะพานแขวนไปรับประทานอาหารเช้ากันที่ บ้านไม้ชายน้ำ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่พัก



เดินผ่านของเก่าวินเทจที่วางเรียงรายตลอดทางเดิน ต่างก็หยุดดูและชื่นชมกันเพลินๆ พร้อมกับสร้างภาพกันเป็นระยะๆ ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะถึงบริเวณรับประทานอาหาร ที่บ้านไม้ชายน้ำ ที่นี่จะมีสโลแกนว่า “อิ่มของกิน อินของเก่า”






บรรยากาศที่บ้านไม้ชายน้ำถูกปกคลุมไปด้วยของแต่งแนววินเทจเรโทร อาหารเช้าของวันนี้ก็มีให้เลือกรับประทานกันหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ข้าวคลุกกะปิ ผัดหมี่ ข้าวต้ม หรือจะสั่งเป็นเมนูไข่กระทะก็ได้เลย ในส่วนของเครื่องดื่มก็มีกาแฟสดไว้คอยบริการตลอด จะกี่แก้วก็ได้เลย ก็ถ้าไม่กลัวว่าปริมาณคาเฟอีนในร่างกายจะล้น 5555+




อิ่มจากอาหารหลักก็ต่อด้วยกาแฟสดกันคนละแก้วก่อนที่จะไปเดินชมของเก่าๆ แนววินเทจ ก็บอกแล้วว่าที่นี่จะมีสโลแกนว่า “อิ่มของกิน อินของเก่า” อาหารก็อร่อย ของเก่าวินเทจมีก็มาก ก็มากที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ หรือใครจะถียง เดินชมของเก่ากันไปก็สร้างภาพกันไป เพลินตาเจริญใจจริงๆ

ภาพสุดท้ายก่อนจะออกไปเที่ยวก็ต้องนี่เลย ป้าย “บ้านไม้ชายน้ำ” บริเวณทางเข้าด้านหน้า ข้างๆ ก็จะมีรูปของนางเอกหนังฮอลลีวูด “มาริลีน มอนโร” ที่กระโปรงปลิวๆ ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ The Seven Year Itch ที่ถูกถ่ายทำในวันที่ 15 กันยายน ปี 1954 ช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง ณ หัวมุมถนนเล็กซิงตัน ตัดกับถนนสาย 52 ในมหานครนิวยอร์ก

หลังจากสร้างภาพกันเสร็จ ทั้งหมดต่างก็แยกย้าย เราสองคนก็เดินข้ามสะพานแขวนไปยังรถ เพื่ออกเดินทางไปเที่ยว โดยมีเป้าหมายอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก ครั้งนี้เราจะเดินทางไปชมความงดงามของดอกไม้ที่มีชือว่า “เหลืองชัชวาลย์” ที่ตอนนี้กำลังออกดอกสีเหลืองบานสะพรั่งสวยงาม ระยะทางก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก


แต่ก่อนจะเดินทางไปชมดอกเหลืองชัชวาลย์ เราสองคนก็ขับย้อนออกไปทางถนนสายหลัก เพื่อไปเติมพลังงานให้กับ ORA Good Cat GT ซึ่งสถานีก็อยูที่ปั๊มพีที ชื่อ EleXA ซึ่งสถานีถือเป็นเจ้าแรกๆ ที่กำเนิดในประเทศ และก็มีเป็นจำนวนมากอีกด้วย โดยที่สถานี EleXA จะผูกและเป็นพันธมิตรกับปั๊มพีที จึงเหมาะและสะดวกสบายสำหรับคนขับรถที่เป็นไฟฟ้า





เดินทางไปตามถนนลาดยาง ซึ่งถนนเส้นนี้ถือเป็นเส้นทางลัดอีกหนึ่งเส้นทางในการเดินทางเข้าสู่เมืองปากช่อง จำนวนรถก็มีไม่มาก เพราะจะรู้เฉพาะคนในพื้นที่หรือคนที่ใช้เส้นทางนี้ประจำ ระหว่างทางดูสวยงาม มีต้นไม้ปลูกอยู่สองข้างทาง มีดอกคูณออกดอกสีเหลืองชูช่อสวยงามเมื่อยามต้องลม มีดอกตะแบกออกดอกสีม่วงเข้มบานสะพรั่ง ทำให้เราอดใขไม่ไหวจนต้องจอดรถลงไปสร้างภาพกันอยู่เป็นระยะๆ เพลินกันสิครับ

ขับรถลัดเลาะไปตามเส้นทางจนกระทั่งออกสู่ถนนสายหลัก ขับเลี้ยวซ้ายเส้นทางที่จะขึ้นถนนมอเตอร์เวย์ หรือ M6 ทางที่จะไปจังหวัดนครราชสีมา ไม่กี่อึดใจก็จะจเอกับปั๊มพีที สาขาปากช่อง 5 เป็นปั๊มที่มีสถานีชาร์จไฟฟ้า EleXA ขับผ่านจุดเติมน้ำมันเลยเข้าไปปด้านในสุดก็จะเจอกับสถานนีชาร์จของ EleXA ซึ่งเวลานี้ไม่มีรถที่จะมารอคิวชาร์จไฟฟ้ามากนัก รถเคลื่อนตัวเข้าไปจอดในช่องที่ 2 ของสถานีชาร์จเพื่อเติมพลังงานให้กับ ORA Good Cat GT




ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของเราสองคนในการเอารถไฟฟ้ามาขับเที่ยวกัน ในการชาร์จไฟฟ้าให้กับรถ เราก็ต้องทำการโหลดแอปของ EleXA มาไว้ในสมาร์ทโฟนก่อนพร้อมกับทำการลงทะเบียนเข้าใช้งาน แล้วก็ต้องทำการผูกบัตรเครดิตเข้าไปเพื่อจ่ายเงิน ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ยากเท่าไหร่ ก็จะได้มีประสบการณ์ก็ในครั้งนี้แหละเรา



ในการชาร์จไฟฟ้า โดยหลักการที่ควรทำก็คือ ควรชาร์จเพียงแค่ 80% เท่านั้น เพราะอะไรหรือ? ก็เพราะระหว่าง 0-80 นั้น การชาร์จจะทำได้รวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ได้ 80% ถ้าเราทำการชาร์จ จาก 80-100 % การชาร์จจะช้าลงมาก คนส่วนมากที่รู้ก็เลยไม่นิยมชาร์จกัน สำหรับครั้งนี้เราก็ชาร์จอยู่ที่ 80% ราคาค่าชาร์จไฟฟ้าก็อยู่ที่ประมาณ 200 บาท ถูกมากจริงๆ อันนี้ถือว่าประหยัดค่าใช้จ่ายเอามากๆ

จึงไม่แปลกใจเลยว่า ช่วงหลังๆ รถไฟฟ้าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากเดิมเอามากๆ ก็เพราะมันประหยัดค่าใช้จ่ายนี่เอง ในขณะที่ทำการชาร์จไฟฟ้า เราก็สามารถไปนั่งจิบกาแฟรออยู่ภายในร้านกาแฟได้เลย โดยที่เรานั้นก็สามารถที่จะดูการชาร์จไฟฟ้าผ่านแอปของ EleXA ได้ ถือว่าสะดวกเอามากๆ




จากสถานีชาร์จไฟฟ้าของ EleXA ภายในปั๊มพีที เราสองคนก็พากันออกเดินทาง ขับมุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่มีดอกเหลืองชัชวาลย์รอเราอยู่ให้ได้ไปชื่นชม ซึ่งก็ต้องขับย้อนกลับมาทางเส้นทางเดิม เส้นทางที่เราขับออกมาจากสอร์ทนั่นเอง โดยขับผ่านเลยไปออกถนนเส้นหลักของตัวเมืองปากช่อง เสร็จแล้วก็ขับเลี้ยวขวาเพื่อไปกลับรถ มุ่งหน้าสู่สถานที่ที่มีดอกเหลืองชัชวาลย์ ที่เป็นเป้าหมายของการเดินทางในวันนี้




ช่วงเวลาสายๆ ของวัน ท่ามกลางแสงแดดอันเจิดจ้าและท้องฟ้าสีครามปราศจากเมฆมาบดบัง การสร้างภาพกับดอกไม้น่าจะได้ภาพที่มีสีสันสดใสสวยงาม ไม่นานนักก็เดินทางถึงที่หมาย โดยเราได้ทำการจอดรถ ORA Good Cat GT คันสีดำอยู่ด้านหน้าของดอกเหลืองชัชวาลย์ ซึ่งฉากหลังเป็นดอกสีเหลืองของดอกเหลืองชัชวาลย์ ดูเผินๆ จะคล้ายๆ กับผืนของพรมขนาดใหญ่ จอดรถเสร็จก็พากันเดินออกมายืนสร้างภาพกับรถและดอกไม้กัน




ครั้งนี้ไม่ใช่มีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้น ยังมีพรรคพวก พี่ๆ เดินทางมาร่วมสมทบในการสร้างภาพกันอีกด้วย ก็มีพี่แรมเจ้าของ “บ้านไม้ชายน้ำ” และเจ้าของรีอร์ท “บ้านไม้วินเทจ” และก็มีพี่ต๋อยและเจ๊เค็ง เจ้าของร้าน “เจ๊เค็ง” งานนี้เลยได้สร้างภาพกันไปเยอะกันเลยทีเดียว

ภาพออกมาถือว่าเป็นที่น่าพอใจและก็สร้างความประทับใจให้กับทุกๆ คน สร้างภาพกันเสร็จก็ประมาณเที่ยงๆ ก็พากันเดินทางไปร้านกาแฟแนวชิคๆ กันต่อที่ในตัวเมืองปากช่อง ชื่อร้าน Kafer

ต้องบอกเลยว่า ที่ปากช่องมีร้านกาแฟดังอยู่มากมายหลายร้าน แต่ที่ร้าน Kafer เป็นร้านกาแฟแนวมินิมอล ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปากช่อง พิกัดหาง่าย ไปไม่ถูกก็ปัก Google Maps ไปที่ร้าน Kafer ได้เลย หรือไม่ก็ปักตามนี้เลย https://maps.app.goo.gl/eS9GtKWp4qJzPdDu7 เดินทางด้วย ORA Good Cat Gt ถึงร้านเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง ไปถึงก็จอดรถบริเวณฝั่งตรงข้ามของร้าน Kafer

ก่อนจะเข้าไปภายในร้าน ก็อดไม่ได้ที่จะต้องสร้างภาพกับป้ายกับสัก 2-3 เฟรม ตัวอคารของร้านก็ตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่ก็แฝงไม่ด้วยความหรูหราและมีเสน่ห์ดึงดูดให้ลูกค้าอยากเดินเข้าไป มุมขวาด้านบนของตัวอาคารจะมีป้ายชื่อร้าน KAFER เป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่




ผลักประตูกระจกบานใหญ่เข้าไปก็จะเจอกับร้านที่มีบริเวณกว้างขวาง โต๊ะและเก้าอี้ถูกวางเอาไว้ตามตำแหน่ง บรรยากาศดูโปร่ง โล่ง สบาย ลูกค้าก็สามารถที่จะเลือกนั่งได้ตามสะดวก ตรงกลางก็จะมีโต๊ะยาวๆ พร้อมเก้าอี้ พวกเราก็เลยตัดสินใจเลือกนั่งกันที่บริเวณนี้ มาร้านกาแฟก็ต้องสั่งกาแฟดื่มกันสิครับ สำหรับผมก็ต้อง อเมริกาโน่ร้อนคั่วเข้ม อีกแก้วสำหรับไดรเวอร์ก็เป็นอเมริกาโน่เย็น ก็มีสั่งขนมมารับประทานคู่กับกาแฟอีกเล็กน้อย 2-3 ชิ้น




บริเวณภายในร้าน KAFER ถูกออกแบบตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่ก็ดูหรูหราอยู่ในที เพดานสูงโปร่ง โล่ง ที่ผนังด้านซ้ายมือมีชั้นวางโชว์แผ่นเสียงไวนีลของนักร้องดังๆ แต่ที่ผมรู้จักก็ต้องแผ่นนี้เลย The BEATLES ที่มีเพลงฮิตๆ อย่าง Imagin ที่ดังไปทั่วโลก ซึ่งผมก็มีเก็บทั้งแผ่นเสียงไวนีลและม้วนเทปคาสเซ็ตอยู่ด้วย




นั่งคุยกันได้สักพักผมก็ปลีกตัวไปเดินสำรวจภายในร้าน เดินดูของตกแต่งไปเพลินๆ พร้อมกับกดชัตเตอร์บันทึกภาพไปด้วย ห้องกว้างๆ มีโต๊ะเก้าอี้วางเอาไว้ไม่มากนัก ชั้นบนนี้ก็จะมีของตกแต่งที่เป็นแผ่นเสียงไวนีลวางโขว์อยู่ในตู้กระจก บริเวณด้านขวามือจะมีเครื่องเสียงวางอยู่พร้อมกับแผ่นเสียงตั้งอยู่ด้านบน มองดูแล้วคลาสสิคดี นอกจากห้องนี้แล้ว ทางบริเวณด้านซ้ายมือก็จะมีอีกหนึ่งห้องกว้างๆ มีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งวางอยู่เป็นชุดๆ ให้ลูกค้าได้เลือกนั่งได้ตามใจชอบ




สำหรับรสชาติของกาแฟก็ถือว่าโอเคเลย ขนนก็อร่อย ในเรื่องของราคาก็ถือว่าไม่แพงมากเหมือนกรุงเทพฯ สำหรับใครที่ต้องการหาร้านกาแฟดีๆ ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก ไม่ต้องขับรถเดินทางเข้าไปไกลๆ ก็แนะนำร้านนี้เลย เป็นสถานที่สำหรับนัดพบปะเพื่อฝูง หรือคนรู้จัก หรือจะไปหาที่นั่งทำงานเพลินๆ พร้อมกับจิบเครื่องดื่มรสชาติที่โปรดปราน เสิร์ฟคู่กับขนมรสชาติดีๆ อร่อยๆ อีกสักชิ้น มันก็ช่วยสร้างบรรยากาศในการทำงานได้เป็นอย่างดี

ใช้เวลาอยู่ที่ร้าน KAFER ร่วมๆ ชั่วโมงก็ได้เวลาเดินทางกลับ “บ้านไม้วินเทจ” ซึ่งเป็นที่พำนักพักพิงสำหรับเราสองคนในการเดินทางมาเที่ยวที่ปากช่องในครั้งนี้

สำหรับยานพาหนะอย่าง ORA Good Cat GT ยานพาหนะคู่การเดินางท่องเที่ยวในครั้งนี้ เป็นรถไฟฟ้า 100% ตอบโจทย์ในด้านการใช้งานได้อย่างครบๆ รูปทรงดูเท่ ปราดเปรียว มาพร้อมกับชุดแต่งในสไตล์รถแข่ง Gran Tourismo จึงมีคำที่ต่อท้ายรุ่นว่า GT ซึ่งก็ย่อมาจาก Gran Tourismo นั่นเอง

เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว (ใหญ่ขึ้น) โดยมีกำลังสูงสุดอยูที่ 171 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด อยู่ที่ 250 นิวตันเมตร กำลังสูงสุดจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 28 แรงม้า แรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้น 40 นิวตันเมตร ตกแต่งรอบคันด้วยวัสดุลายคาร์บอนไฟเบอร์สวยงาม มาพร้อมกับอัลลอยสำหรับ GT ขนาด 18 นิ้วคาลิปเปอร์เบรกสีเหลือง มองแล้วเท่ไม่เบา

ภายในห้องโดยสารตกแตกด้วยสีแบบทูโทน ดำสลับด้วยแถบสีเหลือง ปุ่มปรับต่างๆ ออกแบบย้อนยุคในสไตล์เรโทร สวยและคลาสสิค เบาะนั่งดีไซน์ให้เป็นแบบรถแข่ง บริเวณส่วนด้านบนของเบาะ มีคำว่า GT บ่งบอกชื่อของรถรุ่นนี้ เบาะนั่งด้านคนขับจะเป็นไฟฟ้า สามารถปรับได้ตามต้องการ


บริเวณภายในห้องโดยสารกว้างขวางพอสมควร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 4 คนแบบสบายๆ ไม่อึดอัด บริเวณที่เก็บของท้ายสามารถใส่กระเป๋าและสัมภาระได้พอประมาณ แต่ถ้าเดินทางสองคน กระเป๋าเดินทางสองใบก็อาจจะวางไม่พอ เราก็สามารถนำไปวางเอาไว้บริเวณเบาะด้านหลังได้เหมือนกัน

ระยะเวลาเพียงแค่ 2-3 วัน กับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า 100% ที่เดินทางได้ถึง 460 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึงครั้ง เดินทางไป-กลับปากช่องแบบสบายๆ โดยที่ไม้ต้องชาร์จไฟฟ้า แต่ถ้าเราไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ก็อาจจะไม่เพียงพอ ก็คงต้องมีแวะชาร์จไฟฟ้ากันเพิ่มอีก แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง คนใช้รถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น สถานีชาร์จไฟฟ้าก็มีเพิ่มขึ้นตามตัว และก็มีหลากหลายยี่ห้อให้เราเลือกใช้บริการกัน แต่สำหรับเราเลือกใช้สถานีชาร์จ ของ EleXA สะดวก สบาย แอปออกแบบดูง่าย ใช้ง่าย ที่สำคัญ สถานีชาร์จของ EleXA ในประเทศไทยก็มีอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย



รุ่งเช้าของอีกวันที่บ้านไม้วินเทจ หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่ฝั่งบ้านไม้ชายน้ำกันเสร็จแล้ว ก็เดินข้ามสะพานย้อนกลับมาทางฝั่งบ้านไม้วินเทจ พื่อไปนั่งจิบกาแฟที่ร้าน บ้านไม้วินเทจคาเฟ่ ที่อยู่บริเวณฝั่งเดียวกันกับบ้านไม้วินเทจ



บริเวณของร้านกาแฟ บ้านไม้วินเทจคาเฟ่ ตกแต่งด้วยของเก่าวินเทจทั้งหมด ภายในบริเวณว้างขวาง โปร่ง โล่ง มีที่สำหรับให้ลูกค้าได้เลือกนั่งได้มากมายตามใจชอบ จึงเพลิดเพลินไปกับการเดินชื่นชมของเก่าวินเทจย้อนยุคไปด้วย




ยิ่งใครที่ชอบถ่ายรูปด้วยแล้ว ที่นี่มีมุมให้ได้กดชัตเตอร์มากมายกันเหลือๆ จิบกาแฟไป กินขนมไป ก็เพลิดเพลินไปกับเสียงของสายน้ำไหลอยู่ตอดเวลา เพราะที่นี่จะตั้งอยู่ติดกับลำธาร




เราสองคนเดินเข้าไปสั่งกาแฟดื่มให้ชื่นใจก่อนที่จะพากันเดินทางกลับกรุงเทพฯ บรรยากาศภายในร้านกาแฟออกแบบดูย้อนยุคด้วยของเก่าวินเทจ ภายในร้านก็จะมีเก้าอี้วางอยู่สองมุม สำหรับให้ลูกค้าได้นั่งรับแอร์เย็นๆ จิบเครื่องดื่มรสโปรด นั่งเล่นสมาร์ทโฟนดูรูปเพลินๆ ที่เพิ่งไปสร้างภาพรอบๆ บริเวณกันมา เดินออกจากร้านกาแฟออกไปด้านนอกเพื่อสร้างภาพเป็นที่ระลึก ก็กดชัตเตอร์กันไปร่วม 30 ภาพจนพอใจ ทริปนี้ก็เป็นอันสิ้นสุดกันแต่เพียงเท่านี้




ขอขอบคุณ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ จำกัด ที่เอื้อเฟื้อ ORA Good Cat GT รถไฟฟ้า 100% ยานพาหนะคู่การเดินทางสำหรับการท่องเที่ยวในครั้งนี้