เดินทางถึงที่เดอะมารดาดีในช่วงกลางคืน การเดินทางถือว่าสะดวกและง่ายดาย เพียงแค่ปักหมุดไปที่มารดาดีด้วย Google Maps เท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้การบอกเส้นทางก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเขียนเป็นตัวหนังสือ เพียงแค่มีแอ็ป Google Maps แล้วพิมพ์ชื่อสถานที่ที่เราจะไป เราก็สามารถเดินทางไปยังจุดหมายได้อย่าง่ายดาย ถือเป็นแอ็ปที่สะดวกและมีคนใช้งานเป็นจำนวนมากอีกด้วย
การกลับไปเยี่ยมเยือนที่พักดีๆ อย่างมารดาดีในครั้งนี้ เราสองคนรู้สึกเลยว่าที่นี่มีการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง แต่ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองทั้งจากพนักงานต้อนรับยังคงเหมือนเช่นเคย คืนนั้นเราสองคนได้พักที่ห้องในแบบยุ่งข้าวที่ได้สร้างขึ้นในช่วงแรกๆ ขนาดของห้องไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็กจนเกินไป เตียงนอนเป็นแบบซิงเกิ้ล(เตียงเดี่ยว) ถูกปูด้วยผ้าปูที่ขาวสะอาด
ภายในห้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบเท่าที่จำเป็น ห้องน้ำจะอยู่ด้านหลังทางซ้ายมือ โดยการแยกห้องอาบน้ำ อ่างอาบน้ำ และห้องชักโครกออกจากกัน แสงไฟที่อยู่ภายในห้องน้ำทำให้เรามองเห็นงานศิลปะที่เป็นภาพวาดได้อย่างชัดเจน มันช่วยสร้างอารมณ์ร่วมให้เข้ากับเนื้องานได้ดีจริงๆ ยิ่งเราเป็นพวกที่ชอบเสพศิลปะด้วยแล้ว ก็ต้องบอกว่าที่นี่ “มันใช่เลย” ค่ำคืนนั้นเราสองคนก็เลยนอนพักผ่อนไปพร้อมๆ กับชื่นชมงานศิลปะที่ถูกประดับเอาไว้ภายในห้องไปด้วยเลย
วันรุ่งขึ้นหลังจากตื่นนอนกันแล้ว เดินลงจากบันไดเพื่อไปรับประทานอาหารเช้ากัน รอบๆ บริเวณที่พักจะเจอกับต้นข้าวที่เพิ่งปลูกได้ไม่นาน ชูช่อและใบสีเขียวเอนอ่อนตามลมพริ้วไสวไปทั่ว ได้ยินเสียงน้ำไหลจากกระบอกไม้ไผ่ที่ทำเอาไว้ทดน้ำดังระรื่นหูเพราะดี แสงแดดสาดส่องไปทั่วทั้งบริเวณ ไอแดดอุ่นๆ ทาบทาทั่วทั่งผิวกาย เราสองคนเดินไปตามทางเดินที่อยู่ทางด้านซ้าย มุ่งหน้าไปยังห้องอาหารที่อยู่บริเวณด้านหน้าของที่พัก
เมนูอาหารในครั้งนี้ ทางมารดาดีมีการเปลี่ยนแปลงเมนูหลายรายการ แต่เมนูอาหารหลักๆ ก็ยังคงมีไว้อยู่ อย่างมื้อนี้เราสองคนได้รับประทานอาหารใหม่ๆ ที่ทางมารดาดีจัดขึ้นมา ก็มีเมนู Crab-Cake Eggs Benedict เสิร์ฟมาคู่กับ Breakfast Bruschetta with Pesro, Cheese and Roasted Cheery Tomatoes และเมนูที่สองก็คือ Smokr-Salmon Avocado Toast with Poached Egg ก็ถือเป็นตัวเลือกให้กับทางลูกค้าได้เลือกรับประทาน ในเรื่องของรสชาติก็แล้วแต่คนชอบ แต่ในเรื่องของหน้าตา ก็ต้องบอกว่าสวยงามจนต้องหยิบเอาสมาร์ทโฟนยกขึ้นมาบันทึกภาพกันเลยทีเดียว
รับประทานอาหารกันอิ่มแล้วก็ได้เวลาไปเดินสำรวจในส่วนอื่นๆ ที่ทางมารดารดีได้ทำการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นห้องจัดแสดงงานศิลปะหรือมิวเซี่ยม สถานที่แห่งนี้ นอกจากลูกค้าจะได้เข้ามาพักผ่อนเพื่อเสพบรรยากาศของธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังมีงานศิลปะให้ลูกค้าได้ชื่นชมและเสพความงดงามของงานศิลปะไปในตัว และตอนนี้ทางคุณอู่เจ้าของ ซึ่งเป็นผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะเป็นทุนเดิม ก็เลยทำห้องขึ้นมาเพื่อจัดแสดงงานศิลปะโดยเฉพาะ สถานที่แห่งนี้เราสองคนเลยชื่นชอบกันเป็นพิเศษ
นอกจากห้องจัดแสดงงานศิลปะหรือมิวเซี่ยมแล้ว ที่มารดาดียังมีห้องสปาเอาไว้คอยบริการให้กับลูกค้าที่มาพักอีกด้วย ภายในห้องสปาถูกตกแต่งอย่างสวยงามและคลาสสิค มีงานศิลปะที่เป็นภาพเขียนประดับประดาอยู่บนผนัง โทนสีอุ่นๆ สลัวๆ พร้อมกับการให้สีของห้อง มันช่วยเสริมสร้างอารามณ์ผ่อนคลายในยามที่เราเข้าไปใช้บริการได้อย่างดีจริงๆ
เดินชมห้องต่างๆ ที่ทางมารดาดีได้จัดทำขึ้นมาใหม่จนเริ่มเกิดอาการเหนื่อยล้า การที่จะไปนั่งพักผ่อนและดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ก็คงจะทำให้ชื่นใจอยู่ไม่น้อย ที่มารดาดียังมีมุมเก๋ๆ ริมสระน้ำที่อยู่บริเวณชั้นสองให้เราได้สั่งเครื่องดื่มรสชาติดีๆ มาดื่มดับกระหายไปพร้อมๆ กับเดินชมงานศิลปะ หรือนั่งอ่านหนังสือไปเพลินๆ ในบริเวณที่อยู่ทางด้านใน เราสองคนก็เลยจัดการสั่งเครื่องดื่มที่เราชื่นชอบอย่าง Kiwi Mint Punch (กีวี, น้ำมะนาว และใบสะระแหน่ เอามาปั่นรวมกัน) และอีกหนึ่งเมนูคือ Morning Sunrise-Ginger (ขิง, น้ำมะนาว, ส้ม และแครอท) ในยามที่อากาศร้อนๆ ได้ดื่มเครื่องดื่มรสชาติชื่นใจแบบนี้ ก็ทำให้เราได้สดชื่นได้เหมือนกัน
และนี่ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อเป็นการตอบโจทย์ในด้านการบริการให้กับลูกค้าที่เข้ามาพัก ให้ได้ใช้ประโยชน์ในทุกๆ ส่วน ในทุกๆ ด้านอย่างเต็มรูปแบบ ในยามที่ต้องการการพักผ่อนจริงๆ และที่นี่ “เดอะ มารดาดี เฮอริเทจ เชียงใหม่” จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราอยากจะแนะนำ
สนใจก็ติดต่อขอจองห้องพักกันได้ที่เบอร์โทร 053 103 703 หรือเว็บไซต์ https://www.themarndadee.com/