ภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เราสองคนเดินทางไปเที่ยวบ่อยครั้งที่สุด ด้วยเพราะที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวและอาหารประจำถิ่นที่มีเอกลักษณ์อยู่มากมาย ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เราสองคนก็ได้มีโอกาสกลับไปท่องเที่ยวอีก การเดินทางท่องเที่ยวที่นี่ จะมาเพียงงแค่ 1-2 วันคงไม่จุใจแน่ๆ ดังนั้นพวกเราจึงแพลนมาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตถึง 5-7 วัน ก็ประมาณว่า ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว ก็อยู่เที่ยวและตระเวนหาของกินกันให้หนำใจกันไปเลย เอ! แล้วที่พักหละ จะเลือกพักกันที่โรงแรมไหนดี ครั้งนี้เราสองคนจึงเลือกพักที่ Foto Hotel เป็นสถานที่พักผ่อน และเป็นศูนย์กลางสำหรับการท่องเที่ยวในครั้งนี้
Foto Hotel Phuket ตั้งอยุ่ที่เกาะสิเหร่ ของจังหวัดภูเก็ตนั่นเอง เกาะสิเหร่ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต มีคลองท่าจีนกั้นระหว่างเกาะกับแผ่นดินใหญ่ (ภูเก็ต) ซึ่งเป็นเกาะที่แยกออกมาไม่มากนัก ทางจังหวัดจึงได้ให้เกาะสิเหร่เป็นพื้นที่รวมกันเป็นหนึ่งของเกาะภูเก็ต ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตและศูนย์ราชการจังหวัดประมาณ 4 กิโลเมตร เกาะสิเหร่มีเนื้อที่ประมาณ 20 ตารางกิโลเมตร
เมื่อเอ่ยถึง Foto Hotel หลายๆ คนก็จะต้องนึกถึงน้องหมีลายขาวดำตาหมากรุกตัวใหญ่ๆ น่ากอด น่าถ่ายรูปด้วย เราสองคนก็ไม่พาดสิ เมื่อเดินทางไปถึงที่โรงแรม อันดับที่สองรองจากการถ่ายรูปอาคารของโรงแรม ก็คือ การสร้างภาพกับน้องหมี บอกเลยว่า น่ารักมากๆ
ลากกระเป๋าเข้าไปยังบริเวณภายในเพื่อทำการเช็คอิน การตกแต่งยังคงคอนเซ็ปต์เดิมเอาไว้ บนเพดานด้านบน ดูเผินๆ เหมือนกับผืนผ้าเล็กเรียงเป็นแถวยาวๆ แต่แท้จริงแล้วมันคือการดีไซน์ให้เหมือนแผ่นยางพาราของชาวสวนยาง คือจริงๆ แล้วคอนเซ็ปต์ของ Foto Hotel จะนำเอาวิถีชีวิตของคนภูเก็ตมาตกแต่งและสื่อเป็นเชิงสัญลักษณ์ รูปภาพที่ตกแต่งก็จะมีทั้งภาพรถโพถ้อง วงเวียนน้ำพุ หอนาฬิกา หรือเครื่องมือขุดแร่ที่สะพานหิน และอีกหลายๆ อย่าง นำเอามาแขวนตกแต่งไปทั้งโรงแรมและห้องพัก
เช็คอินเสร็จก็พากันเดินสำรวจรอบๆ บริเวณ ด้านขวามือก็จะมีชั้นโชว์กล้องฟิล์มเก่าย้อนยุค ซึ่งเราสองคนก็ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวอยู่ก่อนแล้ว และก็ยังคงมีเก็บและเอามาใช้สร้างภาพอยู่บ่อยครั้ง ใช้เวลาสร้างภาพได้สักระยะหนึ่งก็พากันเดินลากกระเป๋าเดินทางไปยังห้องพัก เดินผ่านบริเวณตรงกลาง แหงนขึ้นไปก็จะเป็นที่โล่งๆ มองเห็นท้องฟ้า รอบๆ บริเวณนี้ก็จะมีห้องพักรายล้อมอยู่
จากนั้นก็เดินลงบันไดไปตามทางลาด ซึ่งตรงบริเวณนี้จะเป็นโถง ดูแล้วคล้ายๆ กับห้องจัดแสดงงานศิลปะภาพถ่าย ผนังทั้งซ้ายและขวาจะถูกประดับตกแต่งไปด้วยภาพถ่ายที่เป็นวิถีของชาวภูเก็ต เมื่อมองดูภาพถ่ายแล้ว มันทำให้เราได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ในแบบฉบับและวิถีของชาวภูเก็ตได้ดีพอสมควร
เดินผ่านทะลุไปยังอาคารที่เราจะพักที่อยู่บริเวณทางด้านหลังติดกับทะเล เดินเลี้ยวซ้ายเพื่อขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นที่เราจะพัก เหลียวมองไปางด้านขวามือจะเจอกับสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งก็อยู่ด้านบนของห้องโถงที่เราเดินลอดผ่านเข้ามาเมื่อสักครู่ สระน้ำถูกออกแบบได้เก๋ไก๋สไตล์โมเดิร์น โค้งเว้าผสมผสานได้อย่างลงตัว คลุมด้วยโทนสีขาวดำและเทาอมฟ้า ให้ความรู้สึกหวานๆ นุ่มๆ ละมุนตาดี
แตะการ์ดห้อง R-2207 เพื่อทำการเปิดประตูเข้าไปยังบริเวณด้านในห้องพัก ห้องพักจะทาสีออกเทาแก่ๆ อมฟ้าเล็กน้อย เป็นการขับและผลักของตกแต่งภายในห้องให้เด่นชัดขึ้น มองผ่านทะลุหัวเตียงไปจนสุด มองผ่านกระจกใสบานใหญ่ก็จะมองเห็นทะเล ห้องนี้ถือเป็นห้องที่ดีที่สุด เราสามารถมองเห็นท้องทะเลไกลๆ ได้อย่างสุดตา
เมื่อมองไปยังด้านล่างก็จะเจอกับสระน้ำอีก รอบๆ บริเวณก็ทำเป็นโค้งเว้า บริเวณทางเดินก็ปูด้วยทรายสีส้มองเหลืองอ่อน มีโต๊ะพร้อมเก้าอี้ชายหาดวางเอาไว้ให้เราได้นั่งพักผ่อน มีร่มสีขาวแดงกางเอาไว้เพื่อบังแดด และมีต้นมะพร้าวยืนเรียงรายอยู่ติดกัน
ทางบริเวณด้านซ้ายก็จะมีโป๊ะลอยน้ำ หรือเพียร์ (Pier) เพื่อไปยังบริเวณท่าเทียบเรือ เราสามารถลงไปเดินเล่นชมบรรยากาศรอบๆ บริเวณและสร้างภาพกันได้ หันหลังกลับมาเราจะมองเห็นตัวอาคารที่พักตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่น ถือว่าทาง Foto Hotel เลือกทำเล (Location) ได้ดีเอามากๆ
กลับมาสำรวจภายในห้องพัก เตียงขนาดใหญ่ถูกปูด้วยผ้าสีขาวเนียนและเรียบตึง เอามือลูบไล้สัมผัสดูจะรับรู้ได้เลยว่า ที่นอนนุ่มนวลจนแทบอยากจะกระโดดลงไปนอนกลิ้งกันเลยทีเดียว และที่นี่จะขึ้นชื่อในเรื่องของเตียงนอนดูดวิญญาณ ซึ่งคำๆ นี้ก็ไม่ได้กล่าวเดินเลย ลูกค้าหลายๆ คนรวมถึงเราสองคนก็สัมผัสและบอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า มันเป็นเตียง (ที่นอน) ที่ดูดวิญญาณ จนเราไม่อยากจะลุกขึ้นจากที่นอนกันเลยเชียวหละ
รอบๆ บริเวณเตียงนอน ทางผนังด้านซ้ายติดจะมีทีวีจอใหญ่แขวนอยู่ ส่วนทางผนังด้านขวามือจะประดับด้วรูปภาพถ่ายขาวดำ ที่ผนังก็จะมีตัวหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษติดตกแต่งอยู่ “it can be a trap of photographer to think that his or her best pictures were the ones that were hardest to get” เป็นประโยคที่เมื่อแปลแล้วได้ความหมายดี (ลองแปลกันดูนะ)
หันมามองทางหัวเตียง ด้านบนก็จะเป็นโคมไฟส่องสว่างที่ถูกออกแบบให้เป็นเหมือนแผ่นยางพารา ซึ่งตรงบริเวณหัวเตียงก็จะเป็นโต๊ะขนาดยาวให้เราได้นั่งทำงาน ผนังด้านซ้ายเมื่อมองไปจากทางประตูทางเข้า ตรงนี้จะมีชั้นวางเล็กๆ มีกล้องฟิล์มวางเอาไว้หนึ่งตัวพร้อมสวิทช์ไฟ เหนือขึ้นไปเล็กน้อย จะมีประโยที่เป็นภาษาอังกฤษติดตกแต่งอยู่ เป็นคำ “Which of my photographs is my favourite? The one I’m going to take tomorrow” ก็ลองแปลกันดูครับ
ในส่วนของห้องน้ำและตู้เสื้อผ้าก็ออกแบบและจัดวางได้อย่างลงตัว ห้องกว้างขวางดี ห้องนี้มีอ่างอาบน้ำให้ ห้องชักโครกแลห้องอาบน้ำแยกจากกัน ระหว่างห้องน้ำและเตียงนอน มีโซฟาเบาะผ้านุ่มๆ พร้อมหมอนอิงเอาไว้ให้เรานั่งเล่นพักผ่อนเพลินๆ
ในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไปก็มีให้ครบๆ เป็นมาตรฐานของโรงแรม มินิบาร์ที่จัดเอาก็สามารถรับประทานได้ทั้งหมด ภายในตู้เย็ฯก็จะมีน้ำดื่มให้สองขวด มียาคูลท์ มีเครื่องน้ำอัดลมให้ รวมไปถึงชาและและกาแฟก็มีให้ลูกค้าได้ชงดื่มกันตามสะดวก
ที่นี่จะมีห้องพักให้บริการทั้งหมด 74 ห้อง และมีทั้งหมด 5 แบบ (Room Type) ก็มี Ozone hall with Balcony , Ozone hall with Bathtub , Ozone hall with bathtub pool access , Ocean hall with bathtub , Ocean hall with bathtub beachfront
นอกจากห้องพักแล้ว ทางโรงแรมยังมีสถานที่ผ่อนคลาย อย่าง Great Shot Bar ซึ่งเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ไปจนถึงเวลา 21.00 น.ภายในห้อง Great Shot Bar ตกแต่งด้วยโทนสีแดงทั้งห้อง ดูๆ ก็ทำให้นึกไปถึงห้องล้างฟิล์มอนาล็อกสมัยก่อน เก๋ไก๋เข้ากับคอนเซปต์ของที่นี่ดี เคาน์เตอร์เสิร์ฟกาแฟหรือเครื่องดื่มจะทำเป็นเครื่องอัด-ขยายรูป
กาแฟหรือเครื่องดื่มก็จะถูกเสิร์ฟจะวางอยู่ตรงกลางด้านล่างของกล้องอัด-ขยายภาพ มีไฟส่องลงมาตรงกลางเครื่องดื่มพอดี มันทำให้หวลระลึกนึกไปถึงวันที่เคยเรียนอยู่ถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม มันคลาสสิคสุดๆ ภายในห้องนี้ เราสองคนก็เพลิดเพลินและดื่มด่ำไปกับกาแฟสด ก็สร้างภาพเพลิดเพลินกันเลยทีเดียว จากนั้นก็เดินออกไปสร้างภาพกับบรรยากาศด้านนอกที่เป็นสระน้ำ ซึ่งถัดออกไปก็เป็นทะเล
เราสองคนพักกันที่นี่ถึงสองคืน ก็เพื่อเติมเต็มและอิ่มเอมไปกับที่พัก บรรยากาศดีๆ แบบนี้ คืนเดียวก็คงไม่สะใจเป็นแน่ ยิ่งได้ทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มและละมุนด้วยแล้ว ก็บอกแล้วไงว่าที่นี่ มีเตียงดูดวิญญาณ นอนแล้วก็ไม่ค่อยอยากจะตื่นมารับประทานอาหารเช้ากัน
แต่ก็นั่นแหละ อาหารเช้าของที่นี่ก็น่าตื่นมารับประทานจริงๆ เพราะมีอาหารให้ลูกค้าได้เลือกกันเยอะมาก บวกกับบรรยากาของมุมอาหารด้วยแล้ว ยังไงเราสองคนก็ต้องลุกมาเพื่อไปรับประทานอาหารเช้ากัน
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่พักดีๆ เก๋ๆ ที่ ภูเก็ต ที่นี่ Foto Hotel เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่อยากแนะนำ สนใจจองห้องพักก็สามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์: 076 601 398 หรือทาง Facebook : https://www.facebook.com/fotohotelphuket, เว็บไซต์:https://www.fotohotelsthailand.com/หรือ Google Maps : https://goo.gl/maps/xndN9bpSzgEyAth99
